แนะนำเว็บไซต์

     จิตวิทยา เป็นศาสตร์ที่มีคนสนใจมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณก่อนคริสต์กาล  มีนักปรัชญาชื่อ   พลาโต (Plato  427 – 347ก่อนคริสต์กาล) อริสโตเติล (Aristotle  384 – 322  ก่อนคริสต์กาล)  ได้กล่าวถึงธรรมชาติและพฤติกรรมของมนุษย์ในเชิงรัชญามากกว่าแนวคิดทางวิทยาาสตร์  การศึกษาในยุคนั้นเป็นแบบเก้าอี้โต๊ะกลมหรือเรียกว่า  Arm  Chair  Method  เรียกจิตวิทยาในยุคนั้นว่า จิตวิทยายุคเก่าเพราะนักจิตวิทยานั่งศึกษาอยู่กับโต๊ะทำงาน โดยใช้ความคิดเห็นของตนเองเพียงอย่างเดียวไม่มีการทดลอง ไม่มีการวิเคราะห์ใดๆ ทั้งสิ้น ต่อมาอริสโตเติลได้สนใจจิตวิทยาได้ทำการศึกษาและ ได้เขียนตำราเล่มแรกของโลกเป็นตำราที่ว่าด้วยเรื่อง วิญญาณชื่อ  De  Anima  แปลว่า  ชีวิต  เขากล่าวว่า  วิญญาณเป็นต้นเหตุให้คนต้องการเรียนจิตวิทยา คนในสมัยโบราณจึงศึกษาจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณ โดยมีความเชื่อว่าวิญญาณจะสิงอยู่ในร่างกายของมนุษย์ขณะมีชีวิตอยู่  เมื่อคนสิ้นชีวิตก็หมายถึงร่างกายปราศจากวิญญาณและวิญญาณออกจากร่างล่องลอยไปชั่วระยะหนึ่ง แล้วอาจจะกลับสู่ร่างกายคืนอีกได้ และเมื่อนั้นคนๆ นั้นก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกชาวกรีกจึงมีการคิดค้นวิธีการป้องกันศพไม่ให้เน่าเปื่อยที่เรียกว่ามัมมี่เพื่อคอยการกลับมาของวิญญาณ   ต่อมาประมาณศตวรรษที่  11 –  12  ได้เกิดลัทธิความจริง (Realism)  เป็นลัทธิที่เชื่อสภาพความเป็นจริงของสิ่งต่าง ๆ  และลัทธิความคิดรวบยอด  (Conceptualism) ที่กล่าวถึงความคิดที่เกิดหลังจากได้วิเคราะห์พิจารณาสิ่งต่างๆ  ถี่ถ้วนแล้ว  จากลัทธิทั้งสองนี้เองทำให้ผู้คนมีความคิดมากขึ้นมีการคิด วิเคราะห์ ไตร่ตรอง จึงเป็นเหตุให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจในทางวิทยาศาสตร์  และจึงเริ่มมาสนใจในเรื่องจิตวิทยาในเชิงวิทยาศาสตร์มากขึ้นในขณะเดียวกันก็ยังสนใจศึกษาเรื่องจิตมากขึ้นด้วย  รวมทั้งให้ความสนใจศึกษาเกี่ยวกับเรื่องจิตสำนึก  (Conscious)  อันได้แก่ การมีสมาธิ  การมีสติสัมปชัญญะ  และเชื่อว่าจะเป็นมนุษย์ได้จะต้องประกอบไปด้วย  ร่างกายกับจิตใจ  จึงมีคำพูดติดปากว่า  “A Sound  mind  is  in  a  sound  body”  จิตที่ผ่องใสอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์   ความสนใจเรื่องจิตจึงมีมากขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า จิต แบ่งสามารถเป็นส่วนๆ  ได้แก่ความคิด  (Idea)  จินตนาการ  (Imagine)  ความจำ  (Memory)  การรับรู้  (Concept)  ส่วนที่สำคัญที่สุดเรียกว่า  Faculty  of  will  เป็นส่วนหนึ่งของจิตที่สามารถสั่งการเคลื่อนไหวต่างๆ  ของร่างกายต่อมา  Norman  L. Mumm มีความสนใจเรื่องจิต เขากล่าวว่า จิตวิทยา คือ การศึกษาเรื่องจิต  ในปี  ค.ศ.  1590   คำว่า  Psychology   จึงเป็นที่รู้จักและสนใจของคนทั่วไปจอห์น  ลอค  (John  Locke  ค.ศ.  1632 – 1704)  ได้ชื่อว่าเป็น บิดาจิตวิทยาแผนใหม่  เขาเชื่อว่า  ความรู้สึกตัว  ( Conscious )  และสิ่งแวดล้อมเป็นตัวที่มีอิทธิพลต่อจิต

ในศตวรรษที่  19  เป็นยุคแห่งวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ  มีผู้คิดทฤษฎีต่าง ๆ  ทางจิตวิทยาขึ้น       มากมายและที่สำคัญคือ  วิลเฮล์ม  แมกซ์  วู้นท์  (Wilhelm  Max  Wundt  ค.ศ.  1832 – 1920) ได้สร้างห้องทดลองทางจิตวิทยาและเริ่มมีการทดลองขึ้นที่เมือง  Leipzig  ประเทศเยอรมัน  เขาได้ทดลองเกี่ยวกับเรื่องความรู้สึก การจิตนาการ การคิดหาเหตุผลจนได้รับสมญาว่า  บิดาแห่งจิตวิทยาทดลองนับเป็นการเริ่มต้นในการศึกษาจิตวิทยาตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นต้นมา อาจกล่าวได้ว่า วิชาจิตวิทยาเป็นวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่ง ที่ได้รับการยอมรับและวิธีการศึกษาก็ใช้แนวทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ทฤษฎี   การทดลอง การหาเหตุผลตลอดจนการวิเคราะห์พฤติกรรม  

 Raphael-Plato-and-Aristotle